21:00 น. พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 อาคารผู้โดยสารขาออก สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยการต้อนรับพร้อมอ้านวยความสะดวกด้านสัมภาระและบัตรที่นั่งขึ้นเครื่อง
01:05 น.ออกเดินทางสู่ กรุงปารีส (PARIS) ประเทศฝรั่งเศส โดยเที่ยวบินที่ EK385/EK073 * แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ 0500-0750
12:30 น.(เวลาท้องถิ่น) เดินทางถึง สนามบินกรุงปารีส (PARIS) ประเทศฝรั่งเศส หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว ... จากนั้นนําท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก เพื่อพักผ่อนตามอัธยาศัย ..
ที่พัก MERCURE PARIS หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นําท่านชมความยิ่งใหญ่ของ ประตูชัย สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่จักรพรรดินโปเลียน ผ่านชมบริเวณลาน จัตุรัส คองคอร์ท สถานที่ซึ่งเคยเป็นลานประหารพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมาเรียอังตัวเนต พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระ นางมาเรียอังตัวเนต ...
นำท่าน ชมและถ่ายภาพหอไอเฟิล เป็นหอคอยโครงสร้างเหล็ก ที่มีความสูงสง่าถึง 212 เมตร ไม่รวมเสาอากาศอีก 24 เมตร มีลิฟต์ 2 ตัว และบันได 4 ด้าน รวมทั้งภัตตาคารและหอชมวิว 3 ชั้น ซึ่งสามารถมองเห็นฝั่งแม่น้ําแซนได้ กุสตาฟ ไอเฟล (GUSTAVE) สถาปนิกและวิศวกรชั้นนําของฝรั่งเศส ซึ่งค้นคว้าเกี่ยวกับแนวคิดในการออกแบบ ด้วย โครงสร้างโลหะ โดยได้ 2 วิศวกร เวอร์ริส คล็อกลิน และ เอมิล นูลจิเย เป็นผู้เริ่มแนวคิดในการสร้างหอคอยสูง 300 เมตร ...
หมายเหตุ: ท่านสามารถซื้อ option เสริม สําหรับการขึ้นหอไอเฟิลเพิ่มท่านละ 1,000.-บาท (หากลูกค้าต้องการซื้อจะจ่ายเงินพร้อมยอดส่วนที่เหลือ)
นําท่าน ถ่ายรูปด้านหน้ากับพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ พิพิธภัณฑ์ทางศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุดใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของ โลกซึ่งได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมได้เมื่อปี ค.ศ. 1793 มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยราชวงศ์กาเปเซียง ตัว อาคารเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวงตรงมาที่นี่เลย แรกเริ่มลูฟวร์เป็นพระราชวังสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าฟิลิปที่ 2 ในปี ค.ศ. 1190 พอมีการสร้างวังใหม่ในสไตล์เรอเนซองส์แทนป้อมเก่าที่ถูกรื้อทิ้งในสมัยระเจ้าฟร็องซัวที่ 1 ราชวงศ์ฝรั่งเศสจึง มาพํานักในวังนครปารีสเรื่อยมา กษัตริย์แต่ละพระองค์ต่างก็ต่อเติมตกแต่งในห้พระราชวังมีความโอ่งอ่าง ยิ่งใหญ่ สวยงามอวดบารมีจนกระทั่งการปฏิวัติฝรั่งเศสในสมัยพระเจ้าหลุยส์ 16 หลังจากนั้นพระราชวังลูฟวร์ได้ปรับเปลี่ยนเป็น พิพิธภัณฑ์พิพิธภัณฑ์ ภายในพิพิธภัณฑ์ออกเป็น 3 ปีก ได้แก่ RICHELIEU อยู่ทางทิศเหนือ SULLY เป็นอาคาร สี่เหลี่ยมทางทิศตะวันออก และ DENON อยู่ทิศใต้ขนานกับแม่น้ําแซน แต่ละปีกแบ่งเป็นสัดส่วนจัดเก็บศิลปะแบ่งตาม ประเภทและยุคสมัย นอกจากนี้ พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ยังเป็นหนึ่งในฉากสําคัญของภาพยนตร์ชื่อดังระดับโลกอย่างรหัสลับ ดาวินซี (THE DAVINCI CODE) ผลงานศิลปะบางชิ้นในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ คุณจะเห็นได้ว่าแต่ละผลงานนั้นมีความ งดงามน่าตื่นตาตื่นใจอีกทั้งยังเป็นศิลปะที่ทรงคุณค่าประเมินราคาไม่ได้ ...
หมายเหตุ: ท่านสามารถซื้อ option เสริม สําหรับการเข้าพิพิธภัณฑ์ลูฟท์เพิ่มท่านละ 1,000.-บาท (หากลูกค้าต้องการซื้อจะจ่ายเงินพร้อมยอดส่วนที่เหลือ)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นําท่าน อิสระช้อปปิ้งสินค้า DUTY ในราคาถูก อาทิเช่น น้ําหอม, ครีม, เครื่องสําอาง, กระเป๋า, นาฬิกา, เข็มขัด ฯลฯ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง (หอยเอสคาโกร์ + สเต๊ก + ไวน์ท่านละ 1 drink + ของหวาน)
ที่พัก MERCURE PARIS HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นําท่าน เข้าชมพระราชวังแวร์ซายส์ (VERSAILLES) (เข้าแบบ VIP ไม่ต้องต่อคิวรอนาน มีไกด์ท้องถิ่นบรรยาย) เป็นพระราชวังหลวงแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ที่แวร์ซาย เป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก อยู่ ห่างจากเมืองปารีสประมาณ 17 กิโลเมตร ประวัติความเป็นมาของพระราชวังแวร์ซายส์นั้น ต้องย้อน ต้องย้อนไปจนถึงพระเจ้า หลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส ด้วยพระองค์นั้นชอบไล่ล่าสัตว์และชอบใกล้ชิดกับธรรมชาติ พระองค์มีโอกาสมาล่าสัตว์ในป่ารอบ ๆ เมืองแวร์ซายส์อยู่หลายครั้ง จนในปี ค.ศ. 1622 ก็ได้เริ่มซื้อผืนป่าในเมืองนี้เพื่อล่าสัตว์ส่วนพระองค์ จนต่อมาปี ค.ศ. 1623 ก็ทําที่พักขนาดเล็กขึ้นที่นี่ และในปี ค.ศ. 1631 ก็มีการสร้างใหม่ให้กลายเป็นชาโตว์ขนาดย่อมๆ ต่อมาใน สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส พระองค์ทรงตัดสินพระราชหฤทัยย้ายราชสํานักมาอยู่ที่เมืองแวร์ซายส์และได้ ปรับปรุงพระตําหนักหลังเก่าให้กลายมาเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่ สวยงามและหรูหราที่สุดในยุโรป เริ่มดําเนินการในปี ค.ศ. 1661 และมีการสร้างเรื่อย ๆ ใช้เวลาในการก่อสร้างร่วมกว่า 30 ปี ตลอดสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส พระองค์ทรงใช้ที่นี่เป็นสถานที่ในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ซึ่งรวมทั้งคณะทูตจากสยามในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งอยุธยาของเราอีกด้วย ต่อมาเป็นสถานที่พํานักของกษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์เรื่อยมา จนถึงสมัยของ พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส จนเกิดการปฏิวัติฝรั่งเศสขึ้นนับแต่นั้นพระราชวังแวร์ซายส์ก็ไม่เคยได้เป็นที่พํานักของ กษัตริย์อีกเลย จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1837 พระเจ้าหลุยส์-ฟิลิปที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ก็ได้มีคําสั่งให้เปลี่ยนพระราชวังแวร์ชายส์มาเป็นพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสจนถึงปัจุบันนั้นเอง โดยตัวอาคารทุกส่วนสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว มีสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบบาโรค และรอคโคโค ตกแต่งอย่างสวยงาม มีขนาดพื้นที่ขนาดพื้นที่ ทั้งหมด 5,000 ไร่ รายล้อมด้วยสวนสวยที่ตกแต่งให้ ตกแต่งให้มีลวดลายวกวนราวกับเขาวงกต ตกแต่งด้วยต้นไม้ สวนดอกไม้แบบเรขาคณิต มี ประติมากรรมสัมฤทธิ์และหินอ่อนปั้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากเทพนิยายกรีกโรมัน โดดเด่นด้วย น้ําพุจากเทพนิยายกรีก ตัวพระราชวังแบ่งออกเป็น 5 ส่วนใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่ THE PALACE, THE GARDENS, THE ESTATE OF TRIANON, และ THE PARK ในส่วนของ THE PALACE หรือด้านในของพระราชวัง มีห้องมากมายถึง 700
ห้อง จัดแสดงภาพวาด กับงานแกะสลัก มีการติดตั้งหน้าต่าง 2,153 บาน บันได 67 อัน และเตาผิงกว่า 1,315 เตา และ ยังมีการประดับตกแต่งด้วยแซนเดอเรีย มีห้องกระจก(THE HALL OF MIRRORS) เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในพระราชวัง และเป็นไฮไลท์สําคัญ ...
นําท่านเดินทางสู่ ท่าเรือเพื่อล่องเรือชมความสวยงาม ของสถานที่สําคัญคู่บ้านคู่เมืองริมสองฝั่งแม่น้ําแซน ผ่านชมความ งดงามของโบราณสถานและอาคารเก่าแก่ สร้างขึ้นตามสไตล์ของศิลปะเรอเนสซองส์ ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ดูแลเป็นอย่างดี ตลอดทางท่านจะได้ความประทับใจกับความสวยงามของทัศนียภาพที่ร่วมกันสรรสร้างให้นครปารีส ชื่อว่าเป็นนครที่มี ความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก (ในกรณีที่น้ําในแม่น้ําแซนขึ้นสูงกว่าปกติหรือมีเหตุการณ์สุดวิสัย เช่น การนัดหยุดงาน เป็นต้น รายการล่องแม่น้ําแซนอาจจะไม่สามารถดําเนินการได้)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นําท่าน อิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมที่มีชื่อเสียง ณ ห้างแกลอรี่ลาฟาแยส อาทิเช่น หลุยส์, พราด้า, กุชชี่, ชาแนล, เฟน ดิก, นาฬิกา, น้ําหอม, เครื่องสําอาง ฯลฯ ให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าในราคาถูก อาทิเช่น น้ําหอม, ครีม, เครื่องสําอาง, กระเป๋า, นาฬิกา, เข็มขัด ฯลฯ
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองดิฌง (DIJON) เมืองที่มีชื่อเสียงใน เรื่องของไวน์ชั้นเลิศ และยังเป็นเมืองหลวงของแคว้นเบอร์กัน (BURGUNDY REGION) แคว้นที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของ ประเทศฝรั่งเศส ความสําคัญด้านประวัติศาสตร์ของแคว้น เบอร์ กันดีและฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ในเรื่องของการผลิตไวน์ นอกจากวัฒนธรรมเกี่ยวกับไวน์และการปลูกองุ่น เป็นอีกเมืองที่มีความเกี่ยวพันกับคริสต์
ศาสนาเป็นอย่างมาก ...
หมายเหตุ: ท่านสามารถซื้อ option เสริม สําหรับการเดินทางโดยรถไฟ TGV เพิ่มท่านละ 3,000.-บาท (หากลูกค้าต้องการซื้อจะจ่ายเงินพร้อมยอดส่วนที่เหลือ)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก MERCURE HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นําท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (LUCERNE) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นหัวเมืองโบราณของสวิตเซอร์แลนด์ ดินแดนที่ ได้รับสมญานามว่า หลังคาแห่งทวีปยุโรป (THE ROOF OF EUROPE)
เที่ยง รับปะทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นําท่านถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์สิงโตหินสัญญาลักษณ์ของทหารสวิส และถ่ายรูปกับสะพานไม้โบราณคาเปลและทะเลสาบลูเซิร์น ให้ท่านได้อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าสวิสฯอาทิเช่น นาฬิกาแบรนด์เนมชื่อดังมีดพับ, ช็อคโกแลตฯลฯและเดินเล่น ถ่ายภาพกับบรรยากาศอันโรแมนติก
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองอินเทอร์ลาเก้น (INTERLAKEN) เมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอร์ลันด์ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์เมืองตากอากาศสวยงามพร้อมทะเลสาบ 2 แห่งกลางเมืองตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งคือ Thunersee และ Brienzersee ท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านจะได้เห็นเขาจุงเฟราอันลือชื่อ นาฬิกาดอกไม้, สถานคาสิโน ฯลฯตรงนี้แหละคือสวิสฯแบบสุดสุด อย่างที่หลายคนยังไม่เคยได้สัมผัส และยังใช้เป็น ฉากภาพยนตร์ไทยเรื่องวันนี้ที่รอคอย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร *พิเศษเมนู สวิสฟองดูร์ หมู เนื้อ ไก่
ที่พัก THE HEY HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ สถานีกรินเดอร์วาลว์ เพื่อนําท่านนั่งกระเช้าไอเกอร์เอ็กซ์เพรส (EIGER EXPRESS) ขึ้นสู่สถานี EIGERGLETCHER ด้วยเวลาเพียง 15 นาที และต่อด้วยรถไฟขึ้นสู่ยอดเขาจุงฟราวน์ TOP OF EUROPE พิชิตยอด เขาจุงเฟราโดยนั่งรถไฟชมวิวท่องเที่ยวธรรมชาติบนภูเขาสูงแห่งแอลป์แล้วเปลี่ยนเป็นรถไฟสายภูเขาที่สถานีไคลน์ไซเด็ก รถไฟจุงเฟราคันสีแดงที่ไต่ความสูงขึ้นไปอีก รถไฟจะนําคุณลอดผ่านอุโมงค์ยาวที่ตัดผ่านภูเขา EIGER และMONCH เมื่อถึงสฟิงซ์แล้ว เข้าไปด้านในอุโมงค์แห่งโลกอัลไพน์ประดับประดารูปดอกอัลไพน์ แสดงวิถีชีวิต วัฒนธรรม และธรรมชาติของชาวสวิส ผ่านแบบจําลอง ภาพวาด ภาพถ่ายประวัติการก่อสร้างรถไฟขึ้นสู่ยอดเขาจุงเฟรา และยังมีถ้ำน้ําแข็งที่แกะสลักให้สวยงามอีกด้วย เมื่อถึงยอดเขาแล้วท่านจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของยอดเขามากมายที่ปกคลุมด้วยหิมะ จากนั้นอิสระให้ท่านได้สัมผัสและเล่นสนุกกับการเล่นหิมะ
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร บนยอดเขา
นําท่านนั่งรถไฟลงจาก ยอดเขาจุงฟราวน์ สู่ เมืองเลาเทิร์นบรุนเน่น (LAUTERBRUNNEN) ระหว่างทางท่านจะได้เห็น ความสวยงามอีกหนึ่งบรรยากาศ ณ หมู่บ้านเลาเทิร์นบรุนเน่น
นําท่านออกเดินทางสู่ เมืองลูกาโน่ (LUGANO) เมืองริมทะลสาบที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ อิสระเดินเล่นริม ทะเลสาบลูกาโน่ หนึ่งในทะเลสาบที่มีชื่อเสียงและสวยงามของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก MUVENPICK LUGANO หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้นนําท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน (MILAN) ประเทศอิตาลี เมืองเอกของแคว้นลอมบาร์เดีย ประเทศอิตาลี มิลานเป็น เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิตาลีมีประวัติศาสตร์ศิลปะและวัฒนธรรมที่หลากหลายผ่านสถานที่สําคัญมากมาย เมืองนี้ได้ชื่อ ว่าเป็นเมืองผู้นําแฟชั่นระดับแนวหน้าของโลก มีชื่อเสียงในการเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าแฟชั่นโมเดิร์นที่มีความ ทันสมัย เช่นเดียวกับ ปารีส และ นิวยอร์ค ...
นําท่าน ถ่ายรูปกับมหาวิหารแห่งมิลาน (DUOMO DI MILANO) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง มิลานเลยทีเดียว วิหารโอ่อ่า ใหญ่โตอลังการ สถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคสีขาวเด่นสวยงาม เป็นอันดับ 3 ของโลก เรียกอีกแบบว่า ดูโอโม่ (DUOMO) เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1386 แต่ระหว่างการก่อสร้างก็พบกับปัญหา และอุปสรรคมากมาย ทั้งปัญหาการเมือง และการเงินกว่าจะเสร็จสมบรูณ์ก็กินเวลาไปถึง 579 ปี เปลี่ยนคนก่อสร้างไปหลายชั่วอายุคน แต่มีสถาปนิกที่คุมการก่อสร้าง ที่จะไม่ กล่าวถึงไม่ได้นั่นก็คือ ลีโอนาโด นาวินชีศิลปินชื่อก้องโลก วิหารนั้นมีการประดับประดาไปด้วยรูปปั้นกว่า 3,200 รูปที่ สวยงาม และมียอดรวม 135 ยอด จนได้รับฉายาว่า วิหารเม่น ภายในและภายนอกประดับประดาไปด้วยรูปปูนปั้นของนักบุญและเรื่องราวจากพระคัมภีร์ นอกจากนั้นประดับด้วยภาพเขียน และสเตนกราสที่หน้าต่างสีสันสวยงามมาก สามารถบรรจุคนได้ประมาณถึง 40,000 คน
อิสระอาหารกลางวันตามอธัยาศัย
นําท่านออกเดินทางสู่ เมืองเวนิส เมสเตร้ (VENICE) ประเทศอิตาลี ราชินีแห่งทะเลเอเดียตริก เมืองหลวงของแคว้นเวเนโต ท่าเรือตรอนเชโต้ เพื่อลงเรือเดินทางสู่ เกาะเวนิส เมืองท่องเที่ยวที่ ได้รับการกล่าวขานว่าโรแมนติกที่สุดแห่ง หนึ่งของโลก เมืองที่ใช้เรือแทนรถ ใช้ คลองแทนถนน มีเกาะเล็กใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมมากกว่า 400 แห่ง เดินทางสู่ เกาะซานมาร์โค ศูนย์กลางของนครเวนิส ผ่านชม สะพานถอนหายใจ ที่เชื่อมต่อระหว่าง “Doge Palace” ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ครองนครเวนิสในอดีต อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคสมัยนั้น อีกด้วย ชมจัตุรัสเซนต์มาร์ค ที่มีโบสถ์เซนต์มาร์คเป็นฉากหลัง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ อิสระเลือกช้อปปิ้ง สินค้าพื้นเมืองของเวนิสตามอัธยาศัย
นําท่าน ล่องเรือกอนโดล่า (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที รายการนี้ไม่รวมอยู่ในค่าทัวร์ ในกรณีน้ําไม่ขึ้นสูงเกินไปและฝนไม่ ตก ท่านสามารถแจ้งหัวหน้าทัวร์ ซึ่งเรือต่อลําสามารถนั่งได้ 5-6 ท่าน) เพื่อชมมนต์เสน่ห์แห่งนครเวนิสสู่ คลองใหญ่ (GRAND CANAL) คลองที่กว้างที่สุดของเกาะ และงานก่อสร้างที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอัจฉริยะด้านสถาปัตยกรรมที่ สะพานเรียลอัลโต้ (ศิลปินเอกไมเคิลแองเจโล) ได้เวลานัดหมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อิตาเลี่ยนเมนู (สปาเก็ตตี้ พิซซ่า สเต็ก + ไวน์ + ของหวาน)
ที่พัก ANTONIO VENICE HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นําท่านออกเดินทางสู่ เมืองปิซ่า (PISA) (327 กม.) ประเทศอิตาลี
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นําท่าน ชมหอเอนเมืองปิซา (TOWER OF PISA) ตั้งอยู่ที่เมืองปิซาในจัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (PIAZZA DEL DUOMO) 8 ชั้น สร้างด้วยหินอ่อนสีขาว สูง 183.3 ฟุต (55.86 เมตร) ก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1173 สร้างด้วยหินอ่อนสี ขาว ภายในมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลายอย่างสวยงามจากฝีมือจิตรกรชื่อดังโดยเริ่มสร้างในปี ค.ศ. 1173 แต่การ ก่อสร้าง หยุดชะงักเมื่อสร้างไปได้เพียง 3 ชั้น เนื่องจากพื้นใต้ดินนั้นนิ่ม ทําให้เกิดการยุบตัวลง จึงสร้างให้เอนกลับไปอีก ด้านหนึ่งเพื่อให้เกิดสมดุล แต่การก่อสร้างในครั้งนี้ก็ต้องหยุดชะงักลงอีกครั้งเพราะได้เกิดสงครามขึ้น ต่อมาก็มีการสร้าง หอต่อขึ้นอีกจนเสร็จในปี ค.ศ.1350 โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมดถึง 17 ปี เมื่อวัดดูปรากฏว่าเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานถึง 14 ฟุต แต่ก็ยังไม่ล้ม ยังคงเอียงอยู่ถึงทุกวันนี้ หอเอนเมืองปิซ่า ถือว่าเป็นสัญลักษณ์สําคัญของอิตาลีเลยก็ว่าได้ ปัจจุบันนี้หอเอนเมืองปิซา ลาดเอียงลงมาประมาณ 13 องศาแล้ว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่าหอเอนมีโอกาสพังถล่มลงมาแน่นอน โดย ทุก ๆ 20 ปี หอคอยแห่งนี้จะเอนลง 1 นิ้ว และมีคนทํานายว่าหอคอยแห่งนี้จะพังถล่มลงมาในปี 2200 หอเอนเมืองปิซา ถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก โดยเป็นส่วนหนึ่งของ PIAZZA DEI MIRACOLI หอเอนเมืองปิซายังเป็น 7 สิ่งมหัศจรรย์ ของโลกยุคกลาง ...
จากนั้นนําท่านออกเดินทางสู่ กรุงโรม (ROME) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี ที่มีทั้งความเก่าและความใหม่ ซ้อนแทรกอยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน ตั้งอยู่บนแคว้นลาซิโอ (LAZIO) ตรงช่วงกลางของประเทศมีแม่น้ําไทเบอร์ (TIBER) ไหลผ่านกลางเมือง โรมจึงถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน สถานที่สําคัญและเมืองเก่าโรมันจะอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ํา ส่วนฝั่ง ซ้ายเป็นรัฐวาติกันและเขตทราสเตเวเร (TRASTEVERE) ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้มีฐานะ และปัจจุบันเป็นแหล่ง ร้านอาหารและคาเฟ่แบบเก๋ๆทันสมัย ...
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
ที่พัก NOVOTEL HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นําท่านเข้าสู่ วาติกัน รัฐอิสระที่ปกครองตนเอง เป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก...ถ่ายรูปที่ระลึก ด้านหน้าสนามกีฬาโคลอสเซียมโบราณสถานเก่าแก่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เคยเป็นสนามกีฬายักษ์ที่สามารถจุคน ได้กว่า50,000 คน และประตูชัยคอนสแตนตินสัญลักษณ์แห่งชัยชนะและที่มาของถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม
นําท่าน ชมความงดงามตระการตาของ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สถาปัตยกรรมล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งตกแต่งอย่าง โอ่อ่าหรูหรา ชมรูปปั้นแกะสลัก เพียต้า ผลงานของศิลปินเอกไมเคิลแองเจโล เสาพลับพลาที่ออกแบบโดย เบอร์นินี และ ยอดโดมขนาดใหญ่ซึ่งปัจจุบันเป็นสิ่งล้ำค่าคู่บ้านคู่เมืองของอิตาลี
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ชม น้ําพุเทรวี่ จุดกําเนิดของเสียงเพลง ทรีคอยน์ออฟเดอร์ฟาวด์เท่น ที่โด่งดัง ชมความสวยงามของงานประติมากรรม หินอ่อนแบบบาร็อค ซึ่งเป็นเรื่องราวของเทพมหาสมุทร ตามตํานานกล่าวไว้ว่าหากใครได้มาถึงน้ําพุแห่งนี้แล้วโยนเหรียญ อธิษฐานทิ้งไว้จะได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีกครั้งหนึ่ง อิสระเดินเล่นย่านบันไดสเปนแหล่งพักผ่อนของชาวอิตาลีซึ่งเต็มไป ด้วยนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก NOVOTEL HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
10:00 น. นําท่านออกเดินทางสู่ สนามบิน เพื่อเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย ...
15:10 น. ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย โดยสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK098 / EK384 แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ 2350-0305 ***
12:05 น. เดินทางถึง ประเทศไทย ด้วยความสวัสดี
1. ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (Economy Class) + ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมกรุ๊ปเท่านั้น
2. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนําเที่ยวตามรายการ วันละ 12 ชม. ตามกฎหมายยุโรป
3. ค่าห้องพักในโรงแรมที่ระบุตามรายการหรือเทียบเท่า (พักห้องละ 2 ท่าน) จํานวน 8 คืน พร้อมอาหารเช้า
4. ค่าเข้าชมตามรายการที่ระบุ
5. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
6. ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทาง
7. ค่าวีซ่า (หากสถานทูตได้กําหนดการยื่นวีซ่าเป็นคณะแล้ว ท่านใดไม่สามารถมาตามกําหนดได้ กรณีถ้ามีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นท่านละ
500.- บาท ลูกค้าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเท่านั้น)
8. ค่าทิปทุกๆอย่างรวมหมด ลูกค้าไม่ต้องจ่ายใดๆทั้งสิ้น
9. ค่ามัคคุเทศก์ (ไกด์คนไทย) ของบริษัทฯ ดูแลตลอดการเดินทาง
1. ค่าธรรมเนียมจัดทําหนังสือเดินทาง, แจ้งเข้าแจ้งออกสําหรับผู้ที่ไม่ได้ถือหนังสือเดินทางของไทย
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ําหนักเกินจากทางสายการบินกําหนดเกินกว่า 25 กก.และมากกว่า 1 ชิ้น, ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจําตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
3. ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % ในกรณีที่ต้องการใบกํากับภาษี
4. ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษ
ค่าบริการพิเศษต่างๆ
- บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการที่จะไม่รับผิดชอบต่อค่าชดเชยความเสียหาย อันเกิดจากเหตุสุดวิสัยที่ทาง บริษัทฯ ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การนัดหยุดงาน, จลาจล, การล่าช้าหรือยกเลิกของเที่ยวบิน รวมถึงกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองไม่อนุญาตให้เดินทางออกหรือกอง ตรวจคนเข้าเมืองของแต่ละประเทศไม่อนุญาตให้เข้าเมือง รวมทั้งในกรณีที่ท่านจะใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ําเงิน) เดินทางหาก ท่านถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าหรือออกนอกประเทศใดประเทศหนึ่ง
- บริษัทฯสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมรายการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
- บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการ โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเมื่อท่านทําการซื้อโปรแกรมทัวร์ ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านรับทราบและยอมรับเงื่อนไขของหมายเหตุทุกข้อแล้ว ในกรณีที่ลูกค้าต้อง ออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ ....กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง มิฉะนั้นทางบริษัทฯจะไม่ขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โปรแกรมและรายละเอียดของการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะอากาศ
และเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าโดยทางบริษัทฯ จะคํานึงถึงผลประโยชน์และความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทาง เป็นสําคัญ.....
- หลังจากที่มีการจองทัวร์และได้ชําระค่ามัดจําทัวร์หรือทั้งหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการชําระผ่านตัวแทนของบริษัทหรือชําระโดยตรงกับ ทางบริษัท ทางบริษัทจะขอถือว่าท่านรับทราบและยอมรับในเงื่อนไขต่างๆของบริษัท ที่ได้ระบุไว้ทั้งหมด
- นั่งที่ Long Leg โดยปกติอยู่บริเวณทางออกประตูฉุกเฉิน และผู้ที่จะนั่งต้องมีคุณสมบัติตรงตามที่สายการบินกําหนด เช่น ต้องเป็นผู้ ที่มีร่างกายแข็งแรง และช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วในกรณีที่เครื่องบินมีปัญหา เช่น สามารถเปิดประตูฉุกเฉินได้ (น้ําหนักประมาณ20 กิโลกรัม) ไม่ใช่ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพและร่างกายและอํานาจในการให้ที่นั่ง Long leg ขึ้นอยู่กับทางเจ้าหน้าที่เช็คอินสายการบิน ตอนเวลาที่เช็คอินเท่านั้น