20.00 คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารต่างประเทศ ช้ัน 4 เคาน์เตอร์ D สายการบินไทย โดยมีเจ้าหน้าที่จากบริษัททัวร์คอยอำนวยความสะดวกก่อนเดินทาง
23.45 ออกเดินทางสู่นครแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG920
06.15 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติเมืองแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและด่าน ศุลกากรแล้ว
นําท่านออกเดินทางสู่ เมืองไฮเดลเบิร์ก “Heidelberg เมืองเก่าแก่สวยงามตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ําเนคการ์ นําท่านชมเมืองไฮเดลเบิร์ก เข้าสู่ จตุรัสมาร์กพลัทซ์ “Marktplatz” จัตุรัสแห่งนี้จะเป็นที่ตั้งของโบสถ์ Heiliggeistkirche หรือโบสถ์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ที่สร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิกในยุคแรก และเมื่อโบสถ์เสียหายจากการถูกไฟไหม้ในปี 1709 ช่วงสงครามฝรั่งเศสจึงมีการสร้างขึ้นใหม่จึง 10 ถูกสร้างขึ้นมาในรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบบารอกแทน จากนั้นนําท่านเดินผ่านซุ้มประตูเมืองเก่าสีขาวเข้าสู่ “สะพานเก่า” Alte Brucke สะพานหินทอดข้ามแม่น้ําเน็คคาร์ชมวิวของปราสาทไฮเดลเบิร์ก “Heidelberg Castle” ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา อายุมากกว่า 600 ปี ในอดีตเป็นป้อม ปราการและต่อมาได้ถูกเปลี่ยนแปลงให้เป็นปราสาทสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1398 ด้วยรูปศิลปะสไตล์โกธิคและเรอเนสซองส์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! ขาหมูเยอรมันเสิร์ฟพร้อมเบียร์เยอรมันรสเลิศ
นําท่านออกเดินทางสู่เมือง “สตาร์สบูร์ก” Strasbourg เมืองหลวงแห่งแคว้นอัลซาส (Alsace) แห่งฝรั่งเศส ที่ก่อตั้งขึ้นโดยชาว โรมันเมื่อ 12 ปีก่อนคริสต์ศักราช นําท่าน เข้าสู่เขตเมืองเก่า “กรองอิลล์” Grande fle ที่ มีแม่น้ําล้อมรอบเหมือนเป็นเกาะ และเขต เมืองเก่านี้ก็ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ด้วย ชมย่าน Le Petite France ย่านเก่าแก่ที่รายรอบร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ที่พักในรูปแบบการก่อสร้าง แบบ Timber Framing บ้านกรอบไม้กึ่งปูนที่บางหลังมีอายุเก่าแก่ 400-500 ปี ชมมหาวิหารแห่งเมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg Cathedral) วิหารโรมันคาทอลิกเก่าแก่ที่ตั้งอยู่กลางเมือง เดิมสร้างเป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ ต่อมาถูกไฟไหม้เสียหายมากจึงมีการบูรณะใหม่และกลายเป็นศิลปะแบบกอธิคคริสตจักรนิกา โรมันคาทอลิก มี ความสูงอยู่ที่ 142 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่าง ปี ค.ศ.1176-1439
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร พิเศษ ระหว่างมื้ออาหารบริการไวน์พื้นเมืองของแคว้นอัลซาซ ท่านละ 1 แก้ว เพื่อให้ท่านได้ลิ้มลองรสชาติต้นตําหรับของไวน์ฝรั่งเศส
ที่พัก HOTEL HILTON STRASBOURG หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นําท่านออกเดินทางสู่เมือง ริโบวิเล “Ribeauville” หมู่บ้านเล็กๆ ในแคว้นอัลซาส มีบรรยากาศที่สวยงาม บ้านเรือน ในแบบยุคกลาง ที่มีไร่องุ่นโอบล้อมหมู่บ้านเอาไว้ เมืองเล็กๆ แห่งนี้ถูก ล้อมรอบด้วย กําแพงโบราณ ภายในเมืองยังคงกลิ่นอายของเมืองแบบยุโรปยุคกลางได้เป็นอย่างดี และยังคงมีโบสถ์ที่สร้างด้วยสไตล์กอธิคอีก สองแห่งคือ โบสถ์แซนต์เกรกรอรี่ และ โบสถ์เซนต์ออกัสติน อิสระให้ท่านเดินเล่น ในย่านเมืองริโบวิเลตามอัธยาศัย นําท่านเดิน ทางเข้าสู่เขตปลูกองุ่นแสนสวย แห่ง ริโบวิเล “ให้ท่านได้ชิมไวน์เลิศรสแห่งแคว้นอัล ซาส” เก็บภาพความทรงจําในบริเวณเมือง โบวิเล ท่านจะได้สัมผัสกับไวน์องุ่นเลิศรส ที่รสชาติลงตัว ได้เวลาสมควรนําท่าน เดินทางสู่เมือง กอลมาร์ “Colmar” เมือง หลวงของจังหวัดโอ-แร็ง (Haut-Rhin) เป็น เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองหลวงแห่งไวน์แห่งอาลซัส” (Capitale des Vins d' Alsace) นําท่านชมเมืองที่มีชื่อเสียงในการอนุรักษ์เมืองให้ยังคงเป็นเมืองที่ มีลักษณะสถาปัตยกรรมและบรรยกาศของเมืองโบราณ โดยเฉพาะในตัว เมืองเก่าที่เรียงรายไปด้วยเรือนไม้โบราณ ร้านค้าโบราณ โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ คริสต์ศาสนสถาน และร้านค้าและที่อยู่ อาศัยที่คงสภาพเหมือนเมืองในยุคกลาง
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคารพิเศษ!!! ให้ท่านได้ลองพิซซ่าแบบฝรั่งเศสอัลซาซ ทาร์ต เฟมบี (Tarte Flambee) เมนูพื้นเมืองที่ทําจากแป้งคล้ายพิซซ่าแบบอิตาเลียน อบด้วยเตาถ่าน
นําท่านออกหมู่บ้านริคเวียร์ Riquewihr สวยที่สุดในแคว้นอัลซาส (Alsace) หมู่บ้านเล็กๆน่ารักในชนบทที่อยู่ในหุบ เขาถูกโอบล้อมไปด้วยไร่องุ่นมีชื่อเสียงด้านเป็นแหล่งผลิตไวน์อีกด้วย เนื่องจากภูมิอากาศที่เหมาะสมและภูมิ ประเทศของเมืองที่อยู่ในหุบเขา ทําให้องุ่นมี รสชาติดี ไวน์ของ Riquewihr จึงมีชื่อเสียง อันดับต้นๆของประเทศ นอกจากนั้นจะเห็นได้ว่าชาวบ้านท้องถิ่น ยังคงรักษาสภาพบ้านเรือนแม้แต่อาชีพยังคงเป็นแบบดั้งเดิม ทําไวน์ ทําขนมท้องถิ่น ทํางานฝีมือบรรยากาศภายในหมู่บ้านจะคล้ายกับเดินเข้าไปเหมือนหลงอยู่ในเมืองแห่งเทพนิยาย เนื่องจากบ้านเกือบทุกหลังจะตกแต่ง และประดับประดาด้วยดอกไม้ ตุ๊กตาหรือของชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่น่ารักๆเต็มไปหมดและได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งใน Les Plus Beaux Villages de France หมู่บ้านที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น หนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส จากนั้นเดินทางสู่ “เมืองอินเทอร์ลาเก้น” เมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอร์ลันด์ เมืองตากอากาศ สวยงามพร้อม ทะเลสาบ 2 แห่งกลางเมือง ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่งคือ Thunersee และ Brienzersee ท่ามกลางเทือกเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านจะได้เห็นเขาจุงเฟราอันสวยงาม อิสระกับการเดินเล่น ชมเมือง หรือช้อปปิ้งสินค้า พื้นเมืองสวิสฯ ตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ ! อาหารพื้นเมืองชาวสวิส "ฟองดู" (Fondue) สัมผัสวัฒนธรรมแบบ สวิตเซอร์แลนด์ ฟองดูชีส ปรุงโดยการนําเอาชีส มาตั้งไฟและหลอมละลายรวมกับไวน์ขาว
พักที่ : METROPOLE HOTEL / THE HEY HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นําท่านเดินทางเข้าสู่ “หมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนน” ท่านจะได้ชมวิวหมู่บ้านที่น่ารักระหว่างเส้นทาง นําท่านผ่านชม “น้ําตกชเตาบ์บาค” (Staubbach Waterfall) ที่ไหลลงมาจากหน้าผาเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้าน แห่งนี้ นําท่านเข้าสู่สถานีรถไฟเลาเทอร์บรุนเนน โดยสารรถไฟฟันเฟือง สายท่องเที่ยวขบวนพิเศษที่มีกระจกกว้างกว่าปกติเพื่อชมธรรมชาติของ เทือกเขาแอล์ปชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของ สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อนําท่านพิชิต “ยอดเขาจุงเฟ รา” ที่ได้ชื่อว่า “สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป” เป็นพื้นที่ “มรดกโลก” ทางธรรมชาติแห่งแรกของ ยุโรป นําท่านเปลี่ยนขบวนรถไฟ (Cog Wheel) ณ “สถานีไคลน์ไชเด็ก” รถไฟที่จะนําท่าน เดินทางลอดอุโมงค์ที่ชาวสวิสฯ ได้ขุดเจาะไว้ที่ ความสูงถึง 3,454 เมตร สู่ “สถานีรถไฟที่สูงที่สุด ในยุโรป” บนยอดเขาจุงเฟราที่มีความหมายว่า “สาวน้อย” ที่มีความสูงกว่าระดับน้ําทะเลถึง 11,333 ฟุต ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น Top of Europe เมื่อขบวนรถไฟเดินทางถึงสถานีจุงเฟราแล้ว จากนั้นนําท่านเข้าชม “ถ้ำน้ําแข็ง 1,000 ปี” ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปีชมงานแกะสลักน้ําแข็งที่สวยงามอยู่ใต้ธารน้ําแข็ง 30 เมตร ให้ท่านเก็บภาพเป็นที่ระลึก จากนั้นนําท่านโดยสารลิฟต์ขึ้นสู่ชั้นบนของอาคารเพื่อเดินออกสู่ลานหิมะด้านนอก “ชมกลาเซียร์ หรือ ธารน้ําแข็ง” ให้ท่านได้เก็บ ภาพความสวยงามและยิ่งใหญ่ของของธารน้ําแข็ง Aletsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ (มรดกโลกทางธรรมชาติ) มี เวลาให้ทุกท่านสนุกสนานบนลานหิมะอย่างเต็มที่ สําหรับภายในตัวอาคารจุงเฟรายังมีห้องนิศรรษการเกี่ยวกับ ประวัติการสร้างทางรถไฟจุงเฟรา, ร้านจําหน่ายช็อคโกแลตลินน์, ร้านนาฬิกาและร้านจําหน่ายของที่ระลึก ท่านสามารถส่งโปรการ์ดถึงคนพิเศษเพื่อเป็นที่ระลึกจากยอดเขาแห่งนี้ได้อีกด้วย
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร บนยอดเขา Panorama Restaurant เมนูพิเศษ!! ไก่อบสไตล์สวิตเซอร์แลนด์ ท่านละ ครึ่งตัว!!
ได้เวลาสมควรนําท่านเดินทางลงเขาด้วยรถไฟฟันเฟืองสู่สถานีไอเกอร์ (Eiger) เปลี่ยนการเดินทางเป็นกระเช้าไฟฟ้า “นําท่านโดยสารกระเช้าชมวิวเทือกเขาแอล์ป ( THE V-CABLEWAY)” ลงสู่ สถานีกริลเดลวาล์วกรุนด์ ซึ่งใช้เวลาเพียง 12 นาทีเท่านั้น นําท่านออกเดินทางเข้าสู่ “เมืองดีจอง” ซึ่งเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ สวยงามของประเทศฝรั่งเศส อดีตเมืองหลวงแห่งแคว้นเบอร์กันดี และยังเป็นเมืองที่มีความสําคัญในด้านการคมนาคม
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคารภัตตาคาร เมนูพิเศษ!! เบอร์กันดีแฮม Burgundy Ham
พักที่ :Mercure Dijon Centre Clemenceau หรือหรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นําท่านออกเดินทางเข้าสู่ “มหานครปารีส” เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส โดยรถไฟด่วน TGV หรือ Train A Grande Vitesse ด้วยความเร็วกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงท่านจะได้ชมวิวสวยงามระหว่างทาง และ เปลี่ยนบรรยากาศ การเดินทางด้วยรถไฟ / ถึงมหานครปารีส นําท่าน ผ่านชม มหานครปารีส ตั้งอยู่บนแม่น้ําแซนน์บริเวณตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศสบนใจกลางแคว้นอีล-เดอ-ฟรองซ์ จากการตั้งถิ่นฐานมากว่า 2,000 ปี ปัจจุบันกรุงปารีส เป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่ง ของโลก และ ด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทําให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สําคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นําท่าน “ล่องเรือชมแม่น้ําแซนน์” พร้อมชมสถานที่สําคัญคู่บ้านคู่เมืองสองฝั่งของแม่น้ําแซนน์ โบราณสถานและ อาคารที่เก่าแก่สร้างด้วยศิลปะแบบเรอเนสซองส์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสร้างภาพให้ ปารีสโดดเด่นเป็นมหานครที่งดงามแห่งหนึ่ง ของโลก อาทิเช่น หอไอเฟล, พิพิธภัณฑ์ลูฟร์, ศาลาว่าการ โอเต็ล เดอ วิลส์ เกาะเซ็นต์หลุยส์, โบสถ์นอร์ทเตรอดาม, พิพิธภัณฑ์ออร์เซย์, แซงวาลี้ด, พระราชวังบูร์บ็อง,สะพานอเล็ก ซานเดอร์ที่ 3 ฯลฯ นําผ่าน ชม “จัตุรัสคองคอร์ด” Place de la Concorde ที่พรที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารีอังตัวเนต ถูกตัดสินประหารชีวิตโดยกิโยตินในสมัยปฏิวัติฝรั่งเศส ชมถนนแห่ง แฟชั่น“ ชองเอลิเซ่ ” (Champs-Elysees) ที่มี ความยาวกว่า 2 กิโลเมตรที่ร่มรื่นไปด้วยต้นเมเปิ้ลตลอดสองข้างทาง และถือว่าเป็นถนนที่ติดอันดับสวยที่สุดในโลก
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารค่ำ นําท่านขึ้นลิฟท์สู่ชั้น 2 ของหอไอเฟล พร้อมชมวิวมหานครปารีสจากมุมสูง
พักที่ : Hotel Mercure Paris La Defense หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นําท่านเข้าชมความสวยงามภายใน“พระราชวังแวร์ซายย์” (ไกด์ประจําพระราชวังคอยบรรยายตามจุดต่างที่สําคัญๆของพระราชวัง) จัดเป็น 1 ใน 7 สิ่ง
มหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบัน เพราะความสวยงามใหญ่โตของตัวปราสาท และสวนดอกไม้ที่มีการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ผู้ที่ก่อสร้างพระราชวังแวร์ซายส์ ที่งดงามแห่งนี้ คือ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ของฝรั่งเศส นําท่านชมห้องต่างๆ ที่ตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงตามชื่อเทพเจ้าต่างๆ อาทิเช่น ห้องเฮอคิวลีส, ห้องวีนัส, ห้องนโปเลียน, ห้องอพอลโล, ฮอลล์ออฟมิเรอร์ Hall of Mirrors
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารไทย รสเลิศ จากฝีมือพ่อครัวคนไทย
นําท่านเดินทางเพื่อ เข้าชมภายใน “พิพิธภัณฑ์ลูฟร์” (ไกด์ประจําพิพิธภัณฑ์ คอยบรรยายตามจุดต่างที่สําคัญๆของ พิพิธภัณฑ์) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สําคัญและ ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเป็นสถาน ที่ตั้งแสดงศิลปวัตถุนับชิ้นไม่ถ้วน ภายใน จัดแสดงศิลปวัตถุชิ้นสําคัญ อาทิ ภาพวาด โมนาลิซ่า ของลีโอนาร์โด ดาวินชี, รูปปั้น วีนัส เดอมิโล, รูปแกะสลักทาส ของไมเคิล แองเจโล ฯลฯ นําท่านเดินทางเข้าสู่ “ย่าน มองมาร์ต” (Montmarte) เป็นเนินเขา ทาง เหนือของปารีสและเป็นจุดที่สูงที่สุดของเมือง ชม “มหาวิหารซาเครเกอร์” (Bassilica of Sacre Coeur ) ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่อุทิศแด่ชาว ฝรั่งเศส ที่เสียชีวิตจากสงครามกับปรัสเซีย ออกแบบตามแบบศิลปะสไตล์โรมัน - ไบเซนไทน์ Roman-Byzantine สีขาวสวยเด่น เป็นสง่าบนเนิน เขามองมาร์ต นําท่านชม ความงามของวิวสวยของปารีส ที่แห่งนี้ยังเปรียบได้กับว่าเป็น เนินแห่งความฝัน ของ บรรดาศิลปินทั้งหลาย ณ ที่แห่งนี้คือ ที่นัด พบของศิลปินมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ผลงานศิลปะได้มี การสร้างสรรค์จากที่นี่ เป็นจํานวนมาก อิสระให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศแบบชาวปารีเซียง ในย่านมองมาร์ตตลอดสองข้างทาง จะเต็มไปด้วยร้านกาแฟสไตล์ปารีเซียง อิสระให้ท่านได้เดินชมบรรยากาศ และเลือกซื้อของที่ระลึกต่างๆ
ค่ำ บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร มื้อพิเศษ หอยเอสคาโก้ (Escargots au beurre persille), สเต๊กฝรั่งเศสให้ท่าน เลือก(เนื้อวัว,เป็ด, ปลา) เสริฟพร้อมไวน์แดงฝรั่งเศส
พักที่ : Hotel Mercure Paris La Defense หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นําท่านช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีที่ Duty Free อิสระกับการ ช้อปปิ้งสินค้าตามรสนิยมแบรนด์ชื่อดังนานาชนิด อาทิ น้ําหอม เสื้อผ้า กระเป๋า กระเป๋าเดินทาง เครื่องสําอาง
อิสระกับอาหารมื้อกลางวันเพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้งของทุกท่าน
จากนั้นสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังที่ห้างสรรพสินค้า แกลลารี-ลาฟาแยตต์ Galerie Lafayette
ค่ำ อิสระกับอาหารมื้อค่ำตามอัธยาศัยเพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้งของทุกท่าน
พักที่ : Hotel Mercure Paris La Defense หรือที่พักระดับใกล้เคียง
เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
ได้เวลาสมควรนําท่านออกเดินทางสู่สนามบิน....นําท่านเช็คอินและทํา TAX REFUNED
13.40 ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG931
05.55 เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
1. ค่าตั๋วเครื่องบินชั้นประหยัด ไป-กลับ กรุงเทพฯ- มิลาน // ปารีส-กรุงเทพฯ (หรือสลับประเทศลงก่อน-หลัง)
2. ค่ารถปรับอากาศนําเที่ยวตามระบุไว้ในรายการ พร้อมคนขับรถที่ชํานาญเส้นทาง กฎหมายในยุโรปไม่อนุญาตให้คนขับรถ
เกิน 12 ช.ม./วัน
3. โรงแรมที่พักตามระบุหรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากอยู่ในแถบ ที่มีอุณหภูมิต่ําและราคาโรงแรมจะปรับขึ้น 3-4 เท่าตัว หากวันเข้าพักตรงกับงานเทศกาลเทรดแฟร์หรือการประชุมต่างๆ อัน เป็นผลที่ทําให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนย้ายเมืองโดยคํานึงถึงความเหมาะสมเป็นหลัก
4. ค่าอาหารที่ระบุในรายการให้ท่านได้เลิศรสกับอาหารท้องถิ่นในแต่ละประเทศ
5. ค่าบริการนําทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นําเที่ยวให้ความรู้ และคอยดูแลอํานวยความสะดวกตลอดการเดินทาง
6. ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) หากท่านอายุเกิน 75 ปี หรือไม่ได้ เดินทางไปและกลับพร้อมกรุ๊ป ท่านต้องซื้อประกันเดี่ยวเพิ่ม
1. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %
2. ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ วันละ 100 บาท / ท่าน (900 บาท)
3. ค่าทิปพนักงานขับรถตลอดการเดินทาง ท่านละ 2 ยูโรต่อวัน / (14 ยูโร)
4. ค่าธรรมเนียมในการยื่นวีซ่ายุโรปหรือกลุ่มเชงเก้นวีซ่าและค่าธรรมเนียมวีซ่าทางสถานทูตไม่คืนให้ท่านไม่ว่าท่านจะผ่านการ
พิจารณาหรือไม่ก็ตาม ค่าวีซ่า ค่าบริการยื่นวีซ่า ท่านละ 7,000 บาท
5. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ค่าเครื่องดื่มและอาหารนอกเหนือจากที่ระบุในรายการ
6. ค่าผกผันของภาษีน้ํามันที่ทางสายการบินแจ้งเปลี่ยนแปลงกะทันหัน
1. บริษัทฯ จะทําการยื่นวีซ่าของท่านก็ต่อเมื่อในคณะมีผู้สํารองที่นั่งครบ 25 ท่าน และได้รับคิวการตอบรับจากทางสถานทูต เนื่องจากบริษัทฯ จะต้องใช้เอกสารต่างๆที่เป็นกรุ๊ปในการยื่นวีซ่า อาทิ ตั๋วเครื่องบิน ห้องพักที่คอนเฟิร์มมาจากทางยุโรป ประกันการเดินทาง ฯลฯ ทางท่านจะต้องรอให้คณะครบ 25 ท่าน จึงจะสามารถยื่นวีซ่าให้กับทางท่านได้อย่างถูกต้อง
2. หากในช่วงที่ท่านเดินทางคิววีซ่ากรุ๊ปในการยื่นวีซ่าเต็ม ทางบริษัทต้องขอสงวนสิทธิ์ในการยื่นวีซ่าเดี่ยว ซึ่งทางท่านจะต้อง เดินทางมายื่นวีซ่าด้วยตัวเอง ตามวัน และเวลานัดหมายจากทางสถานทูต โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยดูแล และอํานวยความสะดวก
3. เอกสารต่างๆที่ใช้ในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป ทางสถานทูตเป็นผู้กําหนดออกมา มิใช่บริษัททัวร์เป็นผู้กําหนด ท่านที่มี ความประสงค์จะยื่นวีซ่าท่องเที่ยวทวีปยุโรป กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วนตามที่สถานทูตต้องการ เพราะ จะมีผลต่อการพิจารณาวีซ่าของท่าน บริษัททัวร์เป็นแต่เพียงตัวกลาง และอํานวยความสะดวกในการยื่นวีซ่าเท่านั้น มิได้เป็นผู้พิจารณาว่าวีซ่าให้กับทางท่าน
4.กรณีวีซ่าที่ท่านยื่นไม่ผ่านการพิจารณา และคณะสามารถออกเดินทางได้ ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้
5. หากท่านผ่านการพิจารณาวีซ่า แล้วยกเลิกการเดินทางทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดค่าใช้จ่ายทั้งหมด 100%
6.ทางบริษัทเริ่มต้น ต้น และจบ การบริการ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ กรณีท่านเดินทางมาจากต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ และจะสํารอง ตั๋วเครื่องบิน หรือพาหนะอย่างหนึ่งอย่างใดที่ใช้ในการเดินทางมาสนามบิน ทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ เพราะ เป็นค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากโปรแกรมการเดินทางของบริษัท ฉะนั้นท่านควรจะให้กรุ๊ป FINAL 100% ก่อนที่จะสํารองยานพาหนะ
7. กรณีท่านที่ประสงค์พักแบบห้องสามเตียง(Triple Room) หากทางโรงแรมที่พักไม่สามารถจัดห้องพักแบบสามเตียงได้ อาจ ต้องเป็นเตียงเสริมแทน หรือ อาจต้องแยกเป็นห้องสองเตียง 1 ห้องและห้องเตียงเดียว 1 ห้อง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสําหรับค่าห้อง เดียวทั้งนี้ทางลูกค้าต้องเป็นผู้จ่ายค่าห้องเดียวเอง(ทางบริษัทฯ ขอแนะนําให้พักสองห้อง)
8. รูปภาพใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น