23.00 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สายการบิน Emirates (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
02.00 น. ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK377
06.00 น. เดินทางถึงสนามบินดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
09.05 น. ออกเดินทางจากต่อสนามบินดูไบ สู่ประเทศอิตาลีโดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK205
13.10 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซา เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)
หลังจากน้ันผ่านขั้นตอนการตรวจคน เข้าเมืองและศุลกากร นำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองมิลาน (Milan) เมืองที่เรียกได้ว่า เป็นเมืองหลวงแห่ง แฟชั่นของโลก นำท่านชมมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน (Duomo di Milano) ที่สร้าง ด้วยศิลปะแบบนีโอโกธิค ที่ผสมผสานกัน เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ชมแกลเลอรี วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่นับว่าเป็นชอปปิงมอลล์ที่สวยงาม หรูหราและเก่าแก่ที่สุดในเมืองมิลาน และเป็นที่ต้ังของร้านค้า ช้ันนำมากมาย รวมถึงร้านค้าแบรนด์เนมช่ือดังของโลก อาทิเช่น LV, PRADA, GUCCI, TOD’S เป็นต้น ท่านสามารถถ่ายรูปเป็นที่ระลึก จากด้านในซึ่งเป็นอาคารกระจกที่เก่าแก่และสวยงาม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นําท่านเข้าสู่ที่พัก BEST WESTERN GOLDENMILE หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เมืองแห่งสกีรีสอร์ท ยอดนิยมที่ได้รับ ความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะใน เมืองไม่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แต่ใช้แบตเตอรี่เท่าน้ัน และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็ น ยอดเขาแมททอร์ฮอร์น (Matterhorn) ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดใน สวิตเซอร์แลนด์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ให้ท่านอิสระ ณ เมืองเซอร์แมต - โดยมีหัวหน้าทัวร์ให้ข้อมูล หรือ คําแนะนําค่าใช้จ่ายท้ังหมดเป็นความรับผิดชอบของตัวท่านเอง
ให้ท่านอิสระเดินเที่ยวชมเมือง หรือ เลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย หรือจะเลือกขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเพื่อสัมผัส กับความงดงามของ ยอดเขาไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น (Klien Matterhorn) ที่สูงถึง 4,478 เมตร และได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดของเทือกเขาแอลป์ ชื่นชม กับทิวทัศน์ที่สวยงาม ณ จุดสูงที่สุดบริเวณไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น หรือท่านสามารถ เข้าชมถ้ำน้ำแข็งที่อยู่สูงที่สุดในสวิส หรือนั่งรถไฟฟันเฟืองสู่สถานีรถไฟกรอนเนอร์ แกรต (Gornergrat railway) เดินทางสู่จุดชมวิวที่ท่านจะได้เห็นทัศนียภาพที่ สวยงามของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่สวยงาม โดยท่านสามารถเดินเท้าสู่บริเวณ ทะเลสาบที่อยู่สูงจากระดับน้าทะเล 2,757 เมตร โดยบริเวณทะเลสาบนี้เป็นเงา สะท้อนภาพเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn's reflect) อันสุดสวยงามยิ่งนัก (โดยปกติน้าในทะเลสาบ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้าฝน และ สภาพอากาศ ช่วงเวลาที่เดินทางไปชมอยู่ในช่วงกลางปี (พฤษภาคม – ตุลาคม) ถ้าช่วงฤดูหนาว ทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง)
ค่ำ อิสระอาหารค่าตามอัธยาศัย
ที่พัก นําท่านเข้าสู่ที่พัก GORNERGRAT DORF หรือเทียบเท่า
*** ในกรณีถ้าห้องพักเมืองเซอร์แมทเต็มจะเปลี่ยนไปนอนเมืองข้างเคียงแทน*
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเที่ยวชม เมืองมองเทรอซ์ (Montreux) เมืองตากอากาศที่ต้ังอยู่ริม ทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่า “ริเวียร่าของสวิส” ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือน ริมทะเลสาบ
นำท่านถ่ายรูปกับ ปราสาทชิลยอง (Chillon castle) ทางด้านนอก ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างขึ้นบนเกาะ หินริมทะเลสาบเจนีวา ต้ังแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์SAVOY โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่าน ไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็น เส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือน ด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี
นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองโลซานน์ (Lausanne) เมืองที่ต้ังอยู่ตอนเหนือของ ทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุด เมืองหน่ึงของสวิส และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาต้ังแต่ศตวรรษที่ 4 ในสมัยที่ ชาวโรมันมาต้ังหลักแหล่งอยู่บริเวณริมฝั่งทะเลสาบที่นี่ เมืองโลซานน์มีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูด นักท่องเที่ยวจากท่ัวโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มี ความสำคัญสำหรับชาวไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่ในหลวงรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 เมื่อทรงพระเยาว์ ทรงเคยประทับและทรงศึกษาที่เมืองแห่งนี้อีกด้วย
สวนสาธารณะเดอน็องตู (Le Denantou) สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของในหลวงเมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูป กับ ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติที่สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีและรัฐบาลไทยได้ส่งไปต้ังใน สวนสาธารณะของเมืองโลซานน์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านเดินทางสู่เมืองเวเว่ย์ (Vevey) คือเมืองที่ต้ังอยู่ในรัฐโว ของประเทศ สวิตเซอร์แลนด์โดยตัวเมืองต้ังอยู่บนชายฝ่ังทางตอนเหนือของทะเลสาบเจนีวา ต่างก็ขนานนามให้เมืองเวเว่ย์ เป็น "ไข่มุกแห่งริเวียร่าสวิส"(Pearls of the Swiss Riviera) ที่แม้แต่ศิลปินตลกชื่อดังแห่งฮอลลีวู้ด “ชาลี แชปลิน” ยังหลงไหลและได้ อาศัยอยู่ที่เมืองนี้ในบ้ันปลายชีวิต นำท่านถ่ายรูปคู่กับ ส้อมยักษ์เมืองเวเว่ย์(Fork of Vevey) สัญลักษณ์สำคัญของเมืองเวเว่ย์เป็ นส้อมขนาดใหญ่ที่ต้ังอยู่ที่ทะเลสาบ เลอมอง มีความสูงประมาณ 8 เมตร ถูกสร้างขึ้นโดยศิลปินสวิสชื่อ Jean-Pierre Zaugg เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 10 ปี ของพิพิธภัณฑ์ Alimentarium ที่จัดงาน แสดงด้านอาหารและโภชนาการเมื่อปี 1995 จากน้ันนำท่านเดินสู่ เมืองเจนีวา (Geneva)
นำชมเมืองที่เป็นศูนย์กลางการประชุมนานาชาติเมืองที่ต้ังองค์การ สากลระดับโลก อาทิ องค์การการค้าโลก, กาชาดสากล, แรงงานสากล ฯลฯ ให้ท่าน ได้ถ่ายรูปกับน้ำพุเจทโด (Jet d'eau) ที่ฉีดสายน้าพุ่งสูงขึ้นไปในอากาศถึง 390 ฟุต (เปิดเฉพาะวันอากาศดี) และถ่ายรูปกับนาฬิกาดอกไม้ (The Flower Clock) สัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเจนีวา จากน้ันนำท่านเดินทางสู่ตลาดคริสต์มาส (Christmas Market) โดยตลาดคริสต์มาส ของเมืองเจนีวาน้ันได้ช่ือว่าเป็นตลาดคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ให้ ท่านเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาส โดยตลอดเทศกาลจะเต็ม ไปด้วยการประดับไฟตกแต่งเต็มถนน ,ต้นคริสต์มาสขนาดยักษ์ , ร้านจำหน่าย สินค้าแฮนด์เมด ร้านจำหน่ายเครื่องประดับตกแต่งบ้าน ของที่ระลึก ขนม และ อาหารพื้นเมือง รวมท้ังหมดกว่า 300 ร้าน และที่ห้ามพลาดสำหรับตลาดคริสต์มาส ก็คือ “ขนมเพรทเซล” (Pretzel) ขนมพื้นเมืองของแคว้นอัลซาส ทำจากแป้งพาย มีรูปร่างเชือกที่ผูกเป็นปมหรือคล้ายผีเสื้อ ผสมด้วยส่วนผสมชนิดต่างๆ เช่น ชีส น้ำตาล ช็อคโกแลต เมล็ดพืช และถั่ว มีรสชาติออกไปทางเค็ม และจะเข้ากัน ได้ดีอย่างยิ่งมื่อทานคู่กับเครื่องดื่มมที่เป็นสัญลักษณ์ของตลาดคริสต์มาสอย่าง “ไวน์ ร้อน” หรือ Mulled wine ไวน์แดงต้มผสมน้ำตาลและเครื่องเทศต่างๆ เช่น โป๊ยกั๊ก เมล็ดยี่หร่า อบเชย วานิลลา เปลือกส้ม หรือ เลม่อน มีรสชาติเปรี้ยวและมีกลิ่นของ เครื่องเทศ ชาวยุโรปนิยมทานกันในช่วงฤดูหนาว อิสระให้ท่านได้เดินเล่นตลาด คริสต์มาสตามอัธยาศัย
*** ในกรณีที่เกิดปัญหาไม่สามารถไปตลาดคริสมาต์เจนีวา ได้ จะปรับไปตลาดคริสมาต์ที่เมืองซูริคแทน ***
ค่ำ อิสระอาหารค่ำ ตามอัธยาศัย
ที่พัก นําท่านเข้าสู่ที่พัก IBIS GENEVA หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับหนึ่ง ของสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยทะเลสาบและขุนเขา จากน้ันพาท่านชม สิงโตหินแกะสลัก (Dying Lion of Lucerne) ที่แกะสลักบนผาหินธรรมชาติ เพื่อ เป็นอนุสรณ์ร าลึกถึงการสละชีพอย่างกล้าหาญของทหารสวิสที่เกิดจากการปฏิวัติ ในฝรั่งเศส เมื่อปีค.ศ.1792 ชมสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งมีความยาว ถึง 204 เมตร ทอดข้ามผ่านแม่น้ารอยส์ (Reuss River) อันงดงามซึ่งเป็นเหมือน สัญลักษณ์ของเมืองลูเซิร์น เป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป สร้างขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1333 โดยใต้หลังคาคลุมสะพานมีภาพวาดประวัติศาสตร์ของชาวสวิส ตลอดแนวสะพาน แบบสมัยใหม่ มีถนนเลียบไปตามเนินเขาตลอดระยะทาง
กลางวัน อิสระอาหารกลางวันตามอัธยาศัย
จากน้ันเดินทางต่อสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบที่สวยงามราวกับเทพ นิยายต้ังอยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศ โดยนอกจากความสวยงามของ ทัศนียภาพแล้ว เมืองนี้ยังมีอัตราการเก็บภาษีที่ค่อนข้างต่าจึงถือเป็นที่ตากอากาศที่ นิยมของเหล่าเศรษฐี คนดังส าคัญระดับโลกมากมายมาเยือน ท่านอาจจะเห็นซูเปอร์คาร์จอดเรียงรายอยู่ 2 ข้างทาง จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย
นำท่านชมเมือง ชมหอนาฬิกาเมืองซุก (Clock Tower) แลนด์มาร์กที่ส าคัญแห่งหนึ่งของเมือง ด้วย ความสูงของหอถึง 52 เมตรและความโดดเด่น ของหลังคาซึ่งเป็นสีน้าเงินขาวโดน เด่นตัดกับสีหลังคาสีน้ำตาลของบ้านเมืองสวยงามอย่างยิ่ง มีเวลาให้ท่านเดินข้ึน บันไดสู่จุดชมวิวด้านบนของหอนาฬิกา ที่ท่านจะสามารถเห็นวิวที่สวยงามโดยรอบ ของเมืองซุก
นำท่านเข้าชมโบสถ์เซนท์ออสวอร์ล (St Oswald's church) โบสถ์ ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของเมือง ตัวโบสถ์สร้างข้ึนต้ังแต่ ค.ศ. 1478 ใช้เวลาการก่อสร้าง นานถึง 6 ปี ถือเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่สำคัญที่สุดในช่วงโกธิคตอนปลายแห่ง หนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ ชาวสวิสยังมีความเชื่ออีกว่า ถ้าใครมีเรื่องทุกข์ ร้อนใดๆ หรือเจ็บป่วย ถ้าได้มาขอพรกับโบสถ์แห่งนี้ จะช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นอย่าง รวดเร็ว (กรณีถ้ามีพิธีภายในโบสถ์ อาจไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าชม)
นำท่านเข้าชม ร้านทำทองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป (The Oldest house of goldsmiths in Europe) ของครอบครัว Lohri เปิดทำการต้ังแต่สมัยศัตวรรตที่ 16 ภายในตัวอาคารมีการ ตกแต่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยจักวรรดินโปเลียน มีซุ้มประตูและเสาโรมัน มี รูปปั้นและจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยการวาดลายหินอ่อนด้วยมือ ในปี1971 ได้เปิดร้าน นี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะล้ำค่าและเครื่องประดับหายาก และบางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียว ในโลก มีเวลาให้ท่านเดินชื่นชมอาคาร งานศิลปะล้าค่าและเครื่องประดับหายาก แล้ว ในส่วนของ Lohri Store ยังมีนาฬิกาช้ันนำระดับโลกให้ท่านเลือกซื้อเลือกชม อาทิ เช่น Patek Philippe, Franck Muller Cartier , Piaget, Parmigiani Fleurier, Panerai, IWC , Omega, Jaeger-LeCoultre, Blancpain, Tag Heuer ฯลฯ และไม่ ควรพลาดเค้กเชอร์รี่ Zug Cherry Cake (Zuger Kirschtorte) จากร้าน Speck เค้กที่ มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีขายมากว่าร้อยปี มีบุคคลที่มีชื่อเสียงมากมายต่าง เคยลิ้มลองเค้กจากร้านนี้เช่น Charlie Chaplin, Winston Churchill หรือสมเด็จ พระสันตะปาปาฟรานซิส โดยเมืองซุกนี้มีการท าฟาร์มผลไม้ท้ังสตอเบอร์รี่, บูล เบอร์รี่, ราสเบอร์รี่,ลูกแพร์ฯลฯ รวมท้ัง เชอร์รี่ ที่มีปลูกมากกว่า 40,000 ต้น จากน้ันนำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
นำท่านถ่ายรูปกับ โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster abbey) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 853 โดยกษัตริย์เยอรมันหลุยส์ใช้เป็ นสำนักแม่ชีที่มีกลุ่มหญิงสาวชนช้ันสูงจากทางตอนใต้ของ เยอรมันอาศัยอยู่ นำท่านสู่จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz) เป็นจัตุรัสเก่าแก่ที่ มีมาต้ังแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็น ศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อิสระให้ท่านได้เดินชมเมือง ถ่ายรูปและเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
จากน้ันนำท่านเดินทางสู่ตลาดคริสต์มาส (Christmas Market) ให้ท่านเพลิดเพลิน ไปกับบรรยากาศของเทศกาลคริสต์มาส โดยตลอดเทศกาลจะเต็มไปด้วยการ ประดับไฟตกแต่งเต็มถนน , ต้นคริสต์มาสขนาดยักษ์ , ร้านจำหน่ายสินค้าแฮนด์เมด ร้านจำหน่ายเครื่องประดับตกแต่งบ้าน ของที่ระลึก ขนม และอาหารพื้นเมือง รวมท้ังหมดกว่า 300 ร้าน และที่ห้ามพลาดส าหรับตลาดคริสต์มาสก็คือ “ขนมเพรทเซล” (Pretzel) ขนมพื้นเมืองของแคว้นอัลซาส ทำจากแป้งพาย มีรูปร่างเชือกที่ผูก เป็นปมหรือคล้ายผีเสื้อ ผสมด้วยส่วนผสมชนิดต่างๆ เช่น ชีส น้าตาล ช็อกโกแลต อบเชย เมล็ดพืช และถั่ว มีรสชาติออกไปทางเค็ม และจะเข้ากันได้ดีอย่างยิ่งเมื่อ ทานคู่กับเครื่องดื่มที่เป็นสัญลักษณ์ของตลาดคริสต์มาสอย่าง “ไวน์ร้อน” หรือ Mulled wine ไวน์แดงต้มผสมน้ำตาลและเครื่องเทศต่างๆ เช่น โป๊ยกั๊ก เม็ดยี่หร่า อบเชย วานิลลา เปลือกส้ม หรือ เลม่อน มีรสชาติเปรี้ยวและมีกลิ่นของเครื่องเทศ ชาวยุโรปนิยมทานกันในช่วงฤดูหนาว
อิสระให้ท่านได้เดินเล่นตลาดคริสต์มาสตาม อัธยาศัย
*** ในกรณีที่เกิดปัญหาไม่สามารถไปตลาดคริสมาต์เจนีวาได้ จะปรับไป ตลาดคริสมาต์ที่เมืองซูริคแทน ***
ค่ำ รับประทานอาหารค่า ณ ภัตตาคารอาหารจีน
ที่พัก นําท่านเข้าสู่ที่พัก INTERCITY ZURICH AIRPORT หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากน้ันพาท่านเดินทางนั่งรถไฟไต่เขาริกิ(Rigi) ที่ถือได้ว่าเป็นรถไฟไต่เขาที่เก่าแก่ ที่สุดในยุโรป และยังเป็นอันดับ 2 รองจากยอดเขาวอชิงตัน ในมลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ในสหรัฐอเมริกา ความสูงจากระดับน้าทะเล 1,797 เมตร ยอดเขาริกิ (Rigi Kulm) นี้ มีที่ มาจากคำว่า Mons Regina แปลได้ว่าราชินีแห่งภูเขา (Queen of the mountains) เพราะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของยอดเขาอื่นๆ ได้รอบ 360 องศา กลางวัน รับประทานอาหารกลางวันบนยอดเขา
จากน้ันนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) เมืองเล็กๆ ที่ต้ัง อยู่ทางเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ติดกับพรมแดนเยอรมนี โดยสถาปัตยกรรมของ บ้านเรือนในเมืองน้ันตกแต่งด้วยศิลปะแบบเรเนอซองซ์และศิลปกรรมแบบเฟรสโก รวมกับภาพวาดตามผนังของอาคารต่างๆที่บอกเรื่องราวของชาวเมืองอย่าง สวยงาม นอกจากน้ันแล้วเมืองนี้ยังมีช่ือเสียงจากการที่เป็นที่ต้ังของน้ำตกไรน์ (Rhine Fall) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป
นำท่านชมน้ำตกไรน์ (Rhine Falls) น้ำตกที่ใหญ่สวยงามและตื่นตาตื่นใจซึ่งเกิด จากแม่น้ำไรน์ท้ังสายไหลผ่านหน้าผากว้าง 150 เมตร จึงเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุด ในยุโรปและได้ชื่อว่าเป็นน้าตกที่สวยงามที่สุดในยุโรปกลางด้วย อิสระให้ท่านได้ชื่น ชมความงามของน้าตกและถ่ายรูปตามอัธยาศัย
16.00 น. ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานซูริค เพื่อทำคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาช้อปป้ิงสินค้าปลอดภาษี(Duty Free) ภายในสนามบิน
21.50 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินดูไบ โดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK 86
07.05 น. เดินทางถึง สนามบินดูไบ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
09.30 น. ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย โดยสายการบิน Emirates (EK) เที่ยวบิน EK 372
18.40 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
1. ค่าตั๋วเครื่องบิน ช้ันประหยัด ( Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณี มีความประสงค์อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
2. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
4. ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
5. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
6. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
7. ค่าประกันสุขภาพและอุบัติเหตุวงเงินสูงสุด 3,000,000 บาท (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กําหนด ความคุ้มครองเป็นตามกรมธรรม์ประกันภัย)
8. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)
1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่ส่ังพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียม หนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนดเกินกว่า 30 ก.ก., ค่ารักษาพยาบาล กรณี เกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
3. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
4. ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
5. ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รวมค่าบริการยื่นวีซ่า (5,900.-บาท)
6. ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น ( 11 CHF /ต่อท่าน) 7. ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย ( 21 CHF /ต่อท่าน)
1. ชําระเงินมัดจําท่านละ 40,000 บาท + ค่าวีซ่า 5,900 บาท (ค่ามัดจํา + ค่าวีซ่า ในกรณีที่ ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้)
***ในกรณีที่ต้องการให้บริษัทยื่นวีซ่าให้ ค่าวีซ่าจะต้องชำระเข้ามาพร้อมค่ามัดจำ***
2. ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตของผู้ที่เดินทาง ที่มีอายุการใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพื่อทำการจองคิว ยื่นวีซ่า ภายใน 3 วันนับจากวันจอง หากไม่ส่งสำเนาหน้าพาสปอร์ตทางบริษัทขออนุญาติยกเลิกการ จองทัวร์โดยอัตโนมัติ
3. เมื่อได้รับการยืนยันว่ากรุ๊ปออกเดินทางได้ ลูกค้าจัดเตรียมเอกสารให้การขอวีซ่าได้ทันที
4. หากท่านที่ต้องการออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ (กรณีลูกค้าอยู่ต่างจังหวัด) ให้ท่านติดต่อ เจ้าหน้าที่ก่อนออกบัตรโดยสารทุกคร้ัง หากออกบัตรโดยสารโดยมิแจ้งเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทขอสงวน สิทธิ์ไม่รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดข้ึน
5. การยื่นวีซ่าในแต่ละสถานทูตมีการเตรียมเอกสาร และมีขั้นตอนการยื่นวีซ่าไม่เหมือนกัน ท้ังแบบ หมู่คณะและยื่น รายบุคคล (แสดงตน) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจก่อน การจองได้จากทางเจ้าหน้าที่
6. หากในคณะของท่านมีผู้ต้องการดูแลพิเศษ นั่งรถเข็น (Wheelchair), เด็ก, ผู้สูงอายุ, มีโรค ประจำตัว หรือไม่สะดวกใน การเดินทางท่องเที่ยวในระยะเวลาเกินกว่า 4-5 ชั่วโมงติดต่อกัน ท่าน และครอบครัวต้องให้การดูแลสมาชิกภายในครอบครัวของท่านเอง เนื่องจากการเดินทางเป็นหมู่ คณะ หัวหน้าทัวร์มีความจำเป็นต้องดูแลคณะทัวร์ท้ังหมด